วันที่ 8 กันยายน นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จ.สงขลา นักเคลื่อนไหวด้านสังคม พลังงานและสิ่งแวดล้อมโพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ” ระบุว่า เขาคอหงส์เลือนลางแล้ว ทางออกนั้นเลือนรางหนักกว่า ตื่นเช้ามาวันนี้นึกว่าหมอกลงจัด เพราะเมื่อวานฝนตก ปรากฏว่าท้องฟ้าขมุกขมัว อบอ้าวแปลกๆ และเขาคอหงส์หายไป ประสบการณ์สิบปีกับชีวิตคนหาดใหญ่ ทุกคนรู้ได้ทันทีว่า “หมอกควันอินโด”
เมื่อไป search เวปดูคุณภาพอากาศ ค่า AQI หรือ Air Quality Index หรือค่าดัชนีคุณภาพอากาศย่ำแย่ทั้ง 2 web คืออยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ความจริงดูด้วยตาเปล่า ดมด้วยจมูก สัมผัสด้วยความรู้สึกก็บอกได้ครับว่า “อากาศแย่แล้ว”
หมอกควันข้ามพรมแดนคงยากที่จะแก้ จะหมอกควันอินโด หมอกควันภาคเหนือ หรือเผาป่าพรุควนเคร็งหรือแม้แต่ที่อเมซอน ตราบใดที่ระบบเศรษฐกิจโลกยังเป็นเช่นนี้ คนจนสูญเสียที่ดินทำกิน ต้องรุกป่าไปเรื่อย นายทุนก็อุดหนุนรับซื้อผลิตผลราคาถูกๆมาขายต่อกำไรมหาศาล แล้วก็นำเงินนั้นไปซื้อที่ดินจากคนจน คนจนหนี้มากก็ขายที่ดิน บุกป่าไปเรื่อยเพื่อความอยู่รอด พอบุกป่าปลูกพืชบนเขาสูง รถไถเข้าไม่ได้ การเผาเพื่อให้โล่งเตียนรอฝนหว่านเมล็ดจึงเป็นวิธีเดียวของเกษตรกร นี่จึงเป็นวัฏจักรนิรันดรจากระบบอันเส็งเคร็งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเอง มนุษย์ผู้มีอารยธรรมสูงส่งกำลังทำลายตัวเองลงช้าๆด้วยตัวเราเอง
แก้หมอกควันไฟป่า อาจต้องก้าวข้ามไปจัดการเรื่องการปฏิรูปที่ดินอย่างซีเรียสเป็นบันไดขั้นแรก คนจนหากเขามีที่ดิน เขาก็คงไม่อยากลำบากบุกป่าผ่าดงไปเผาป่าเปิดหน้าดินหรอกครับ
