เชียงราย – นายกฯ บินเชียงราย ติดตามแก้ปัญหาไฟป่า-หมอกควันภาคเหนือ

24 กันยายน 2563

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามแก้ปัญหาไฟป่า-หมอกควันภาคเหนือ

นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ จ.เชียงราย ติดตามการป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่า-หมอกควันภาคเหนือ 17 จังหวัด ย้ำประชาชนต้องมีส่วนร่วม พร้อมหาพื้นที่ทำการเกษตรให้ชาวบ้าน ตั้งเป้าปัญหาหมอกควันลดลงในปี 64

วันนี้ (24 ก.ย.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางไปจังหวัดเชียงราย เปิดงานสัมมนาผู้บริหารโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 111 โรงเรียน จากนั้นประชุมหารือแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควันกับผู้ว่าราชการจังหวัด 17 จังหวัดภาคเหนือ

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันพื้นที่ภาคเหนือ แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด 17 จังหวัดภาคเหนือ ณ ห้องดอยตุง โรงแรมเดอะริเวอร์รี บาย กะตะธานี จ.เชียงราย โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น เข้าร่วมการประชุม

นายกรัฐมนตรี กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานให้ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน สนับสนุนการดำเนินงานบูรณาการการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า ภายใต้โครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่า ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญในทุกมิติและพัฒนาต่อยอดมาตลอด ทั้งเทคโนโลยีภาพถ่ายที่มีหน่วยทหารเข้ามาร่วมดำเนินการ โดยสนับสนุนจัดหางบประมาณจัดซื้ออุปกรณ์

ดันกฎหมายคุม PM 2.5
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การที่จะทำให้ไม่มีการจุดเผาป่านั้นยาก แต่รัฐบาลต้องแก้ปัญหา ต้องมีกฎหมายที่ใช้ควบคุมเพื่อให้ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้

ทั้งนี้ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของภาคเหนือ โดยเฉพาะในปี 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งฝุ่นละอองขนาดเล็กเป็นอันตรายกับสุขภาพของคนทุกวัยโดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ จึงจำเป็นที่จะต้องลดการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กลงให้ได้มากที่สุด ทุกฝ่ายจึงต้องช่วยกัน

ในปี 2564 มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน่วยงานกองทัพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมมือกันป้องกันและแก้ไขปัญหา รวมทั้งให้หน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข ดูแลสุขภาพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

หนุนพื้นที่การเกษตร ให้ชาวบ้านลดเผาป่า
ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมายในเชิงปริมาณและคุณภาพไปพร้อมกัน โดยต้องขจัดต้นตอของการเผาป่าที่เกิดจากวิถีชีวิตของชาวบ้าน หาพื้นที่ให้ชาวบ้านทำการเกษตร ขณะที่ต้องรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้อยู่ได้นานที่สุด ทั้งนี้ เป้าหมายตัวชี้วัดด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในปี 2564 คือ ต้องลดลงอย่างต่อเนื่องทุกปี

ขณะเดียวกันรัฐบาลจะส่งเสริมเทคโนโลยีเพื่อไปดูเรื่องการขุดแหล่งน้ำต่าง ๆ ขณะที่การมีส่วนร่วมของประชาชนนั้น ต้องให้เขารับรู้ว่าทำแล้วได้อะไร โดยจะต้องสร้างการรับรู้และความตระหนักถึงผลกระทบจากปัญหาหมอกควันและไฟป่า ทั้งทางเศรษฐกิจ และสุขภาพของประชาชน ผ่านภาษาถิ่น ภาษาชาวบ้านด้วย

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังแนะนำจังหวัดให้นำเทคโนโลยีแอพพลิเคชันการดับไฟป่ามาใช้ ให้หน่วยงานในพื้นที่ร่วมมือกัน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดบริหารงานแบบ Single Command ให้มีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งขอบคุณทุกหน่วยงานและทุกองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยส่งเสริมให้มีการทำงานร่วมกันในทุกระดับและทุกขั้นตอน

ข่าวไทยพีบีเอส