ตราด – อ่าวตาลคู่เละ น้ำหลาก-น้ำหนุน-คลื่นสูงซัดฝั่ง ทำหาดทรายหาย ถนนทรุด ที่นั่งพัง
17 ก.ย. 2020
อ่าวตาลคู่เละ เจอน้ำหลาก เจอน้ำหนุน เจอคลื่นสูงซัดเข้าฝั่ง ทำหาดทรายหาย ถนนทรุด ที่นั่งร้านอาหารถล่ม ชาวบ้านเผยเป็นภัยธรรมชาติครั้งรุนแรงที่สุด หวั่นพายุ“โนอึล” ถล่มซ้ำ
เมื่อเช้าช่วงมืด (4.00น.) วันที่ 17 กันยายน 2563 เกิดฝนตกหนักส่งผลให้น้ำป่าไหลหลากจากที่สูงลงสู่ อ่าวตาลคู่ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ อำเภอแหลมงอบ จ.ตราด ส่งผลให้หาดทรายถูกน้ำเซาะหายไป บนพื้นทรายมีเศษขยะเต็มตลอดชายหาด ขณะที่จุดนั่งรับประทานอาหาร พังถล่ม ถนนถูกคลื่นกัดเซาะหายไป 1 เลน และเสาไฟฟ้าล้ม 1 ต้น เป็นความเสียหายครั้งรุนแรงที่สุดของอ่าวตาลคู่ จากภัยธรรมชาติ
ซึ่งในเวลา 8.00 น. นายสุชาติ จิตมุ่งมโนธรรม นายกอบต.บางปิด ส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบความเสียหายและช่วยเหลือเบื้องต้น โดยเจ้าหน้าที่เข้าตัดต้นไม้ที่ล้มขวางถนนออก พร้อมกับทำการตัดกระแสไฟฟ้า เนื่องจากมีเสาไฟฟ้าล้มอยู่ 1 ต้น ขณะที่น้ำกัดเซาะพื้นที่ดินใต้ถนนหายไป 1 มีความยาวประมาณ 30 เมตร เบื้องต้นได้ทำการปิดถนน 1 เลน เพื่อป้องกันอันตรายซ้ำซ้อน
ส่วนพื้นที่ชายหาดพบความเสียหายตลอดชายหาด หลังถูกคลื่นซัด ส่งผลให้ชายหาดบางส่วนหายไป พบเศษขยะจำนวนมากลอยเต็มทะเล และชายหาดยาวกว่า 150 เมตร อย่างไรก็ตาม ทางอบต.บางปิด ยังไม่ปิดชายหาด ยังคงเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามานั่งรับประทานอาหารได้ตามปกติ แต่อาจจะลงเล่นน้ำหรือนั่งเล่นหาดทรายไม่ได้เหมือนเดิมในตอนนี้ เพราะต้องเร่งเก็บขยะและรอการฟื้นฟูสภาพชายหาดทั้งหมดก่อน ส่วนถนนที่ถูกน้ำเซาะเตรียมประสานทางหลวงชนบทจังหวัดตราด เข้ามาตรวจสอบเพื่อดำเนินการแก้ไขต่อไป
ด้านนางอรนงค์ จิตกานนท์ เจ้าของอาหาร กล่าวว่า เมื่อช่วงเวลา 4.30 น. เกิดฝนตกหนักส่งผลให้น้ำป่าไหลหลากจากที่สูงลงมาที่อ่าวตาลคู่ ร้านตนเองก็ถูกน้ำป่าไหลผ่านร้านเสียหายเช่นกันแต่ไม่มากนัก ประกอบกับช่วงที่เกิดน้ำป่าไหลหลาก เป็นช่วงที่น้ำทะเลขึ้นสูง และมีคลื่นลมแรง ทำให้คลื่นซัดเข้าหาฝั่งจนสร้างความเสียหายตามที่เห็น ส่วนการค้าขายนั้นตนเองก็ยังคงเปิดร้านตามปกติ แต่นักท่องเที่ยวคงเดินทางมานั่งรับประทานอาหารได้ตามปกติ ซึ่งตนเองยังมีกังวล พายุโนอึล ที่จะเข้าประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ อาจจะสร้างปัญหาซ้ำเติมให้กับอ่าวตาลคู่อีกรอบ
อย่างไรก็ตาม ทางนายกอบต.บางปิด ปลัดอำเภอแหลมงอบพร้อมเจ้าหน้าที่ ร่วมเดินทางสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น เบื้องต้นมีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำป่าไหลหลากหลายสิบหลัง แต่ไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก หากสำรวจเสร็จแล้วทั้งหมดจะดำเนินการช่วยเหลือในขั้นตอนต่อไป
77 ข่าวเด็ด