พิจิตร – หนีภัยแล้ง! พลิกแปลงนา ปลูกกะหล่ำปลีนอกฤดูกาล

18 สิงหาคม 2563

หนีภัยแล้ง! พลิกแปลงนา ปลูกกะหล่ำปลีนอกฤดูกาล

แม่น้ำพิจิตรแห้งขอดยาวนาน ชาวนาวัย 55 ปี ปรับเปลี่ยนแปลงนาข้าว หันปลูกกะหล่ำปลีนอกฤดูกาล ผลผลิตงามสร้างรายได้ดี

วันที่ 18 สิงหาคม 2563 ที่แปลงปลูกกะหล่ำปลี หมู่ที่ 4 ตำบลวัดขวาง อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร นายวินัย จันทร์เชื้อ ชาวนา วัย 55 ปี ต้องเร่งดูแลแปลงปลูกกะหล่ำปลีบนพื้นที่กว่า 1 ไร่ที่กำลังออกดอก และห่อใบอย่างงดงามและรอวันจะเก็บเกี่ยวในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าที่จะถึงนี้ โดยแปลงปลูกกะหล่ำปลีดังกล่าว เดิมเป็นพื้นที่การทำนาปลูกข้าว แต่สภาพแห้งแล้งมายาวนานฝนทิ้งช่วง ประกอบกับแม่น้ำพิจิตรสายเก่ากลับมีสภาพแห้งขอดทั้งๆ ที่เป็นช่วงฤดูฝน ในปีนี้จึงทำนาปลูกข้าวไม่ได้ เพราะปริมาณน้ำมีไม่เพียงพอ ประกอบกับกรมส่งเสริมสหกรณ์เข้าไปส่งเสริมการปลูกพืชทดแทน จึงเข้าร่วมโครงการปลูกพืชประเภทกะหล่ำปลีนอกฤดูกาล โดยเริ่มลงทุนตั้งแต่ไถพรวนดินและหยอดเมล็ดกล้าเอง จากนั้นรอวันต้นกล้าเจริญเติบโต ทั้งๆ ที่เป็นเพาะปลูกครั้งแรกและไม่ทราบว่า จะได้ผลผลิตหรือไม่ แต่ก็ลองเสี่ยงดูอีกทั้งปกติพื้นที่การปลูกกระหล่ำปลีจะปลูกกันพื้นที่ภาคเหนือบนภูเขา

นายวินัย กล่าวว่า สำหรับกะหล่ำปลีใช้ระยะเวลาเพาะปลูกประมาณ 90 วันก็จะสามารถเก็บผลผลิตได้ นอกจากนี้ยังสามารถเลี้ยงแขนง หรือใบกะหล่ำปลีต่อไปอีก 15 วัน ก็สามารถตัดส่งจำหน่ายได้อีกทางหนึ่ง ตนเองเป็นชาวนาที่กล้าปรับเปลี่ยนมาปลูกกะหล่ำปลี เนื่องจากสหกรณ์โพทะเลและกรมส่งเสริมสหกรณ์ ออกเงินทุนให้ 2 หมื่นบาท สำหรับเป็นค่าปุ๋ย ค่าสารเคมีต่างๆ จึงมีเงินมาลงทุนปลูกกะหล่ำปลีบนพื้นที่กว่า 1 ไร่

หนีภัยแล้ง! พลิกแปลงนา ปลูกกะหล่ำปลีนอกฤดูกาล

สำหรับผลผลิตที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวได้อีกไม่กี่วันข้างหน้าไม่น้อย 7 ตัน ซึ่งจะมีพ่อค้าคนกลางที่ตลาดสี่มุมเมืองให้ราคารับซื้อที่กิโลกรัม 18 บาท หรือตันละ 1 หมื่น 8 พันบาท และเมื่อหักลบต้นทุนการผลิตเฉลี่ยไร่ 2 หมื่นบาทก็จะเหลือกำไรไร่ละประมาณ 1 แสนบาท ซึ่งดีกว่าการทำนาปลูกข้าวหลายเท่าตัว

TNNONLINE