พิจิตร – ไม่ได้ฝนจากซินลากู-แม่น้ำยมยังแห้งขอดตลอดสาย

4 สิงหาคม 2563

พื้นที่จังหวัดพิจิตรยังขาดน้ำทำการเกษตรหลายอำเภอ ถึงแม้ว่าจะมีฝนตกจากอิทธิพลพายุซินลากูขณะที่แม่น้ำยมยังแห้งขอดตลอดสาย เกษตรยังต้องการน้ำฝนทำนา

พิจิตรไม่ได้ฝนจากซินลากู-แม่น้ำยมยังแห้งขอดตลอดสาย

วันที่ 4 สิงหาคมคม 2563 นายศรชัย สิบหย่อม ประธานกลุ่มเกษตรกรผู้ใช้น้ำอำเภอสามง่าม กล่าวว่าถึงแม้ว่าจะมีพายุซินลากูทำให้ตกหนัก ในหลายจังหวัดพื้นที่ภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย หลายวันติดต่อกันก็ตาม แต่พื้นที่จังหวัดพิจิตร ทั้งหมด 12 อำเภอจำนวนกว่า 4,531.013 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 2,831,883 ไร่ ยังไม่ได้อานิสงส์จากมวลน้ำฝนดังกล่าวอย่างเพียงพอเลย

ซึ่งจากสถานการณ์ภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วงมายาวนานตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2562 จนถึงปัจจุบันยังไม่คลี่คลาย และหลายอำเภอประสบภัยแล้งขาดแคลนน้ำเพื่อทำการเกษตร ได้แก่ปลูกข้าว และพืชไร่ ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของเกษตรกรของจังหวัดพิจิตร

โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มแม่น้ำยม และลำคลองสาขา ใน พื้นที่อำเภอสามง่าม อำเภอโพธิ์ประทับช้าง อำเภอบึงนาราง และอำเภอโพทะเล รวมทั้งพื้นที่อำเภอวชิรบารมี ซึ่งขณะนี้แม่น้ำยม ตลอดระยะทางยาว 124 กิโลเมตร จากอำเภอสามง่าม ปลายทางอำเภอโพทะเล ตลอดความยาวของแม่น้ำยม ยังแห้งขอดตลอดสายจะมีบ้างตามแอ่งเล็กน้อย ส่วนใหญ่จะมองเห็นเนินดินเนินทรายสามารถเดินข้ามไปมาหากันได้ อีกทั้งเกษตรกรยังไม่สามารถใช้ประโยชน์จากแม่น้ำยมได้เหมือนที่ผ่านมา นับว่าในปีนี้เกิดความแล้งหนักจริงๆเมื่อเทียบจากห้วงระยะเวลาเดียวกันกับทุกๆปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้พื้นที่นอกเขตชลประทาน ที่เกษตรกรต้องอาศัยน้ำฝนเพื่อทำการเกษตรเพียงอย่างเดียว ในพื้นที่ติดที่ลาดเชิงเขาเทือกเขาเพชรบูรณ์แหล่งน้ำทางธรรมชาติ ห้วย หนอง ลำคลอง และบึง ไม่มีกักเก็บต่างแห้งขอด ในพื้นที่อำเภอสากเหล็ก วังทรายพูน ทับคล้อ ตะพานหิน และอำเภอดงเจริญ ขณะนี้พื้นที่นาข้าว และพืชไร่ ได้รับผลกระทบขาดแคลนน้ำอย่างหนักเช่นกันต้นข้าวเหี่ยวเฉาใกล้ตาย บางพื้นที่ตายแล้วก็มี อย่างไรก็ตามหากพายุฝนไม่ตกในพื้นที่จังหวัดพิจิตร หรือตกแล้วมวลน้ำไม่เพียงพอในระยะอันใกล้นี้ คาดว่าจะทำให้ผลผลิตทางการเกษตรเสียหายจำนวนมากได้

TNNONLINE