วันที่ 19 กันยายน 2562 เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ได้นำซากพะยูนตัวใหญ่ ไม่ทราบเพศ ไม่ทราบสาเหตุการตาย ขนาดโตเต็มวัย คาดว่าตายมาแล้วประมาณ 5-7 วัน ขึ้นฝั่งที่ท่าเรือหาดยาว ต.เกาะลิบง โดยเชื่อว่าเป็นพะยูนตัวที่ 11 ที่ถูกพบลอยตายอยู่ในทะเลตรัง บริเวณระหว่างเกาะยา จ.ตรัง – เกาะไหง จ.กระบี่ ห่างกันประมาณ 3 ไมล์ทะเล โดยผู้พบใช้เชือกมัดซากผูกติดไว้ถังแกลลอนน้ำมัน ตั้งแต่วันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา และแจ้งเจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 ให้ออกไปเก็บซาก แต่ค้นหาไม่พบเนื่องจากฝนตกหนักและคลื่นลมแรง จนกระทั่งมีชาวบ้านไปพบซากถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นอยู่บริเวณชายหาดบ้านหลังเขา หมู่ 5 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ในช่วงสายของวันนี้

เบื้องต้น จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า ซากพะยูนเหลือเพียงหนังและเศษเนื้อ ยาวประมาณ 2 เมตร น้ำหนักประมาณเกือบ 200 กิโลกรัม ส่วนของครีบหางกว้างประมาณ 40 เซ็นติเมตร เป็นพะยูนตัวเต็มวัยหนุ่ม – สาว เชื่อว่าน่าจะตายอย่างเฉียบพลันหรือตายจากอุบัติเหตุ คือ พบส่วนของผิวหนังมีร่องรอยถูกของมีคมตัดเป็นแนวตามลำตัว และ พบว่าซากขณะถูกผูกมัดไว้กับถังแกลลอนน้ำมันลอยอยู่ในทะเล หรือเข้ามาเกยตื้น จึงจับกรีดหนังตัดเลาะเอากระดูกหรือชิ้นส่วนสำคัญ ซึ่งหากเป็นเพศผู้จะมีเขี้ยว 2 ข้าง เอาไปตามความเชื่อโบราณเรื่องกระดูก เขี้ยว ทำเครื่องรางของขลัง หรือเอาไปขายตามใบสั่ง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำซากไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.กันตัง เพื่อเป็นหลักฐานให้เจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 ใช้ในการเคลื่อนย้ายซากด้วยรถยนต์ไปส่งให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน จ.ภูเก็ต เพื่อชันสูตรการตายต่อไป เนื่องจากพะยูนเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เป็นสัตว์น้ำชนิดแรกของไทยที่ถูกกำหนดให้เป็นสัตว์ป่าสงวน ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ใครจะมีไว้ครอบครองมิได้

ด้าน นายวิทยา มากนคร เจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 กล่าวว่า เชื่อว่าซากพะยูนที่พบจะต้องเป็นตัวเดียวกับที่ได้ออกเรือตามหาก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน เพราะส่วนตัวก็เชื่อว่าซากจะต้องถูกคลื่นซัดเข้าไปเกยตื้น และพบว่าจุดเกยตื้นคือ บริเวณบ้านหลังเขาจะสัมพันธ์กับทิศทางของคลื่นลม และไม่ไกลจากจุดที่คนไปพบขณะลอยอยู่ในทะเล จึงเชื่อว่าเป็นซากพะยูนตัวเดียวกัน ส่วนเพศระบุไม่ได้ จะเร่งนำซากไปส่งศูนย์วิจัยฯภูเก็ต เพราะเท่าที่ตรวจสอบด้วยตาเปล่าพบว่าบริเวณส่วนหนังถูกของมีคมตัด ทำให้ชิ้นส่วนกระดูกหายไป เพื่อให้ทีมสัตวแพทย์ได้ผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป และดูว่าชิ้นส่วนไหนหายไปบ้าง ร่องรอยของมีคมสัมพันธ์กับส่วนหนังที่ถูกตัด หรืออวัยวะที่ถูกตัดไปหรือไม่อย่างไร

สถานที่เกิดเหตุการณ์
ถูกพบลอยตายอยู่ในทะเลตรัง บริเวณระหว่างเกาะยา จ.ตรัง – เกาะไหง จ.กระบี่ ห่างกันประมาณ 3 ไมล์ทะเล
นำขึ้นฝั่ง ท่าเรือหาดยาว ต.เกาะลิบง
กลุ่มเหตุการณ์
ด้านทะเลและชายฝั่ง
ประเภทเหตุการณ์
เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ทะเล
แหล่งข่าว
มติชนออนไลน์
ความถูกต้องของตำแหน่ง
มาก