“ดร.ธรณ์” เผย “น้ำมันรั่วระยอง” ยังประเมินความเสียไม่ได้ เหตุการณ์ยังไม่จบ ห่วงการท่องเที่ยวเสียหาย อย่างน้ำมันเข้าหาดแม่รำพึง แต่คนก็ไม่ไปเที่ยวตั้งแต่ระยอง สัตว์น้ำก็ขายไม่ได้ แนะเสนอข่าวให้ชัดเจนว่าจุดไหนที่ได้รับผลกระทบ

วันที่ 31 ม.ค. 2565 ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง “นิวส์วัน” ในหัวข้อ “น้ำมันรั่วระยอง ผลกระทบที่ยังไม่จบ ?”

ผศ.ดร.ธรณ์ กล่าวถึงความเสียหายกรณีน้ำมันรั่วระยอง ว่า หาดแม่รำพึงเป็นหาดทราย ไม่มีปะการัง ไม่มีหญ้าทะเล แต่มีสิ่งมีชีวิต เด่น ๆ ก็หอยเสียบ ปูทหาร พวกที่ได้รับผลกระทบก็สัตว์ที่ว่ายน้ำหนีไม่ได้ น้ำมันมาก็ถูกทับไป ส่วนอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด มีแนวปะการัง แต่ตอนนี้น้ำมันไม่ได้เข้าถึงขั้นที่จะเป็นแบบเมื่อหลายปีก่อน ผลกระทบยังไม่ชัดเจน แต่ก็ยังต้องเฝ้าระวัง ไปที่สวนสน บ้านเพ ตรงนั้นมีหญ้าทะเล จากประสบการณ์คราวก่อน หญ้าทะเลผลกระทบจะไม่มากเท่าปะการัง

ผศ.ดร.ธรณ์ กล่าวอีกว่า จุดที่น่าห่วงตอนนี้คือบริเวณอ่าวพร้าว เพราะคราบน้ำมันกำลังเข้าใกล้เกาะเสม็ดมากขึ้น คราบดำ ๆ ที่หาดแม่รำพึงก็จะน้อยลง ไปที่อ่าวพร้าวมากขึ้น ความเสียหายยังประเมินไม่ได้ตอนนี้ถ้ามันยังไม่จบ แต่เราสามารถบอกได้ว่าก่อนที่จะเกิดครั้งนี้ เรามีบทเรียนมาก่อน ทางคณะประมง กับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งก็ทำงานร่วมกันตั้งแต่ต้นเรามีข้อมูลก่อนที่น้ำมันจะมา ครั้งนี้เราจึงมีเวลาที่จะเตรียมการ แต่ก็คาดเดาได้ยาก ขึ้นอยู่กับสถานการณ์รายวัน

เมื่อถามว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ผศ.ดร.ธรณ์ กล่าวว่า ปกติน้ำมันจะเข้ามาเป็นลิ่ม ผ่านไปก็จะเริ่มมาเป็นคราบเป็นฟองเป็นเหลื่อม ๆ ในที่สุดก็เป็นก้อนน้ำมันดิบ ใช้เวลารวมทั้งสิ้น 2-3 สัปดาห์ หรืออาจจะเป็นเดือน หากเทียบกับเหตุการณ์น้ำมันรั่วที่อ่าวพร้าวเมื่อ 9 ปีก่อน ครั้งนั้นน้ำมันอัดมาที่เดียวกันสะสมอยู่ในอ่าวพร้าว ปากอ่าวแค่ 500 เมตร หาด 400 เมตร แต่ครั้งนี้มันแผ่กว้าง หาดแม่รำพึงยาว 13 กิโลเมตร คราวนี้ผลกระทบต่อจุดมันจะเบากว่า แต่พื้นที่กว้างกว่าเยอะมาก

ผศ.ดร.ธรณ์ กล่าวต่ออีกว่า ข้อมูลทางวิชาการมันมีค่าต่อการเยียวยา ตนไม่ได้เป็นคนประเมินการเยียวยา แต่บอกได้ว่าพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบตรงไหนแดงเข้ม และร่วมมือกับกรมทรัพยากรทางทะเล ท้ายที่สุดขบวนการมันไม่จบภายใน 3 เดือน 6 เดือน ต้อเป็นไปตามขบวนการศาล ผลกระทบบอกได้ยาก เพราะบอกว่าน้ำมันเข้าหาดแม่รำพึง คนก็ไม่ไปเที่ยวตั้งแต่ระยองแล้ว บางทีจับสัตว์น้ำได้ก็ขายไม่ได้ ไม่มีนักท่องเที่ยวจะไปขายใครล่ะ ปัญหามันเกิดจากเอกชน ภาครัฐก็มีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่นทำไมไม่เอาเรือประมงไปช่วยเก็บ การที่ภาครัฐเอาเงินไปซื้อน้ำมันให้เอกชน คนอนุมัติติดคุกนะ

ส่วนเรื่องของชาวบ้าน บอกให้เขาเลิกจับปลาหรืออะไรก็ตาม ต้องเยียวยาเขาด้วย ไม่ใช่ให้เขาเลิกทำเฉย ๆ เพราะว่าพี่น้องประมงพื้นบ้านทำประมงกันอย่างเดียวไม่ได้มีอาชีพเสริมด้านอื่น แล้วก็เรื่องของผู้ประกอบก็ขาดรายได้ไปเยอะ บริษัทที่เป็นต้นเหตุ เป็นบริษัทขนาดใหญ่ เขาก็ทำตามคู่มือต่างประเทศ แต่ในความเป็นจริงจะเหมือนหรือเปล่าก็ต้องสืบสวนสอบสวน ผศ.ดร.ธรณ์ กล่าวด้วยว่า เวลาข่าวออกไปต้องชัดเจนว่าผลกระทบอยู่ตรงไหน ตอนนี้ที่แม่รำพึง เกาะเสม็ดยังไม่แน่ แหลมแม่พิมพ์ ตอนนี้เช็กยังไม่มีคราบน้ำมัน ต้องเอาให้ชัด ไม่เช่นนั้นเดือดร้อนกันค่อนข้างเยอะ

♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦

แหล่งข่าว