เจ้าท่าพัทยาบูรณาการร่วม 3 หน่วยงาน เอาคืนที่สาธารณะลุยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 5 แห่ง รุกล้ำชายหาดนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี หลังครบกำหนดคำสั่งให้ทำการรื้อถอน

วันที่ 6 ม.ค.65 นายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา พร้อมด้วยนายพิเชฐ ธรรมโหร ปลัดอำเภอสัตหีบ เจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาลนาจอมเทียน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสัตหีบ และเจ้าหน้าที่ ศร.ชล.จังหวัดชลบุรี ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่นำอุปกรณ์และรถแบ็กโฮ 1 คันลงพื้นที่ชายหาดนาจอมเทียน หมู่ที่ 2 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างประเภทอาคารเพิงไม้รุกล้ำชายหาด ระยะทาง 500 เมตรหลังได้มีคำสั่งให้ดำเนินการรื้อถอน และห้ามใช้อาคารตาม ม.118 ทวิ วรรคหนึ่งภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ 1 พ.ย.64

โดยในเบื้องต้น พบว่าชาวบ้านส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือในการขนย้ายสิ่งของออกจากพื้นที่แต่โดยดี ส่วนเจ้าหน้าที่ได้เข้ารื้อสิ่งปลูกสร้างบนพื้นที่ชายหาดที่มีลักษณะเป็นเพิงไม้ ซึ่งมีชาวบ้านมาจัดสร้างเป็นร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลารื้อถอนประมาณ 6 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ

นายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา เปิดเผยว่า เจ้าท่าพัทยาได้บูรณาการในหลายหน่วยงานในพื้นที่อำเภอสัตหีบในการดูแลรักษาพื้นที่ชายหาด ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะ หลังจากที่เจ้าท่าได้มีการตรวจสอบข้อรองเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2564 ซึ่งพบว่ามีผู้บุกรุกในการปลูกสร้างอาคารลักษณะเป็นร้านประกอบกิจการขายอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บนพื้นที่ชายหาดนาจอมเทียน หมู่ 2 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ระยะทาง 500 เมตร

โดยที่ผ่านทางเจ้าหน้าที่ของเจ้าท่าพัทยาได้มีการแจ้งให้ผู้ประกอบการทั้ง 5 ราย ได้ทราบถึงการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการรกระทำผิดกฎหมายตามพรบ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย ฐานปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำโดยไม่ได้รับอนุญาตจกเจ้าท่าและได้มีคำสั่งให้ผู้ประกอบการทั้ง 5 ราย ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ชายหาดภายระยะเวลา 30 วัน

โดยในวันนี้ถือว่าได้ล่วงเลยระยะเวลาที่เจ้าท่าได้กำหนดตามคำสั่งรื้อถอนแล้ว อีกทั้งเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบตามขั้นตอนของกฎหมาย พบว่าผู้ประกอบการไม่ได้ยื่นเรื่องอุทธรณ์คําสั่งแต่อย่างใด โดยท่าเจ้าหน้าที่ก็ได้ให้สิทธิ์ประชาชนในการต่อสู้ในเรื่องของกรรมสิทธิ์และใบอนุญาตในพื้นที่ดังกล่าวว่าได้มาอย่างไร แต่ก็ไม่มีการอุทธรณ์คําสั่ง ทั้งนี้เมื่อครบอุทธรณ์คําสั่งแล้ว เจ้าหน้าที่เจ้าท่าก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้ง 5 รายออกไปจากพื้นที่ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อคืนพื้นที่ชายหาดให้กับประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน

นายเอกราช เปิดเผยต่ออีกว่า ทั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการรื้อถอนมีเพียงบางรายเท่านั้นที่ยังไม่มีความเข้าใจ เจ้าท่าก็จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ด้วยเจ้าท่า ฝ่ายปกครองและเทศบาลมีหน้าที่ในการดูแลพื้นที่สาธารณะตามกฎหมาย อีกทั้งในส่วนพื้นที่ชายหาดเจ้าท่าจะมีการบูรณะให้เป้นพื้นที่ที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันอย่างยังยืนต่อไป

โดยหลังจากนี้จะมีการหารือในหลายภาคส่วนในการบริหารจัดการพื้นที่สาธารณะ ประเภทพื้นที่ชายหาดนาจอมเทียน หมู่ 2 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ด้วยพื้นที่ดังกล่าวมีประชาชนส่วนใหญ่เข้ามาพักผ่อนจำนวนมาก ส่วนการทำมาหากินของประชาชนในพื้นมี่นั้นจะต้องได้รับความเห็นชอบจากหนลายภาคส่วนในการใช้พื้นที่สาธารณะชายหาดนาจอมเทียน หมู่ 2 โดยจะมีการประชุมหารือร่วมทั้งเจ้าท่า เทศบาล ฝ่ายปกครองและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการพิจารณาการใช้ระเบียบคล้ายกับพื้นที่ชายหาดเมืองพัทยาต่อไป

♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦

แหล่งข่าว