จ.กระบี่ ทำพิธีวางฝูงเรือรบอย่างสมเกียรติ สร้างอุทยานเรียนรู้ใต้ท้องทะเล เกาะลันตา

ภาพโดย ทัพเรือภาคที่ 3

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (15 ธันวาคม) นายไชยยศ จิรเมธากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีจมเรือรบหลวง รวม 3 ลำ ใกล้กับเกาะหมา ท้องทะเล อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ลงสู่ใต้ทะเล เป็นอุทยานการเรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์ ฟื้นฟูระบบนิเวศทรัพยากรทางทะเล และเป็นแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำระดับโลก ในพื้นที่ทะเลเกาะลันตา จ.กระบี่ โดยมี นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พลเรือตรี พัลลภ เขม้นงาน รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 นายชวน ภูเก้าล้วน ประธานสภาการศึกษาจังหวัดกระบี่ หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ และประชาชน เข้าร่วม

ก่อนการวางเรือหลวงทั้ง 3 ลำ คือเรือหลวงปราบปรปักษ์ เรือ ต.15 หรือเรือหลวงสู้ไพรินทร์ และเรือ ต.16 หรือเรือหลวงหาญหักศัตรู ลงสู่ใต้ท้องทะเล ได้มีพิธีวางพวงมาลาไว้อาลัยอย่างสมเกียรติ พร้อมทำการนำน้ำเข้าเรือใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง กว่าเรือจะจมดิ่งสู่ก้นทะเลทั้ง 3 ลำ

สำหรับพิธีจมเรือดังกล่าวเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งอาศัยของสัตว์น้ำ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำของ จ.กระบี่ และจังหวัดฝั่งอันดามัน ตามโครงการอุทยานการเรียนรู้ใต้ท้องทะเล โดยความร่วมมือระหว่าง จ.กระบี่ ร่วมกับกองทัพเรือ และสภาการศึกษา จ.กระบี่

ภาพโดย ทัพเรือภาคที่ 3

นายไชยยศกล่าวว่า โครงการสร้างอุทยานการเรียนรู้ใต้ท้องทะเลจังหวัดกระบี่ได้รับการอนุเคราะห์จากกองทัพเรือมอบเรือปลดประจำการ จำนวน 11 ลำ ซึ่งเป็นเรือที่ปลดประจำการเพื่อจมใต้ท้องทะเลเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำ โดยในวันนี้ทำการจมเรือรบปลดประจำการ จำนวน 3 ลำ ได้มีการทำพิธีวางเรือไปแล้ว จำนวน 3 ลำ เพื่อเป็นการจัดสร้างปะการังเทียม ตามโครงการอุทยานเรียนรู้ใต้ท้องทะเล จ.กระบี่ ส่วนอีก 8 ลำ จะนำมาจมอีก ประมาณเดือนมีนาคม 2565 ซึ่งจากนี้ไปเรือรบทั้ง 3 ลำ จะทำหน้าที่อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ตามโครงการอุทยานเรียนรู้ใต้ท้องทะเลจังหวัดกระบี่ตลอดไป

ภาพโดย ทัพเรือภาคที่ 3

ด้านนายสมชาย กล่าวว่า เชื่อว่าในอนาคต จ.กระบี่ จะเป็นศูนย์กลางการดำน้ำดูปะการังที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในท้องทะเลฝั่งอันดามัน เนื่องจากมีปะการังที่เป็นโครงการอุทยานเรียนรู้ และปะการังธรรมชาติ โดยก่อนหน้านี้ทาง จ.กระบี่ นำเรือรบที่ปลดประจำการไปวางไว้ท้องทะเล จำนวน 2 จุด ได้แก่ บริเวณเกาะยาวาซำ และเกาะพีพีเล ต.อ่าวนาง พบว่ามีปะการังเริ่มเจริญงอกงามและกำลังเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว

ขณะที่นายชวนกล่าวว่า จากการติดตามข้อมูลพบว่ามีนักท่องเที่ยวประมาณ 1 แสนที่เดินทางเข้าไปดำน้ำดูปะการังโครงการอุทยานเรียยรู้ใต้ท้องทะเล ทำให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวมีเงินสะพัดปีละไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท และยังเป็นการดึงนักดำน้ำให้ออกจากแหล่งปะการังธรรมชาติ ลดความเสื่อมได้อีกด้วย

♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦

แหล่งข่าว