ตำรวจ ปทส.สนธิกำลังหลายหน่วยงาน จับชาวบ้านบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ท่าช้าง และป่าแม่ขนินข้างห้วยช้างตาย ผู้ต้องหาให้การซัดทอดผู้นำชุมชนใน อ.หางดง และเจ้าหน้าที่รัฐ จ้างวานให้ถางป่า ก่อนจะนำไปขายนายทุนสร้างบ้านพักตากอากาศ เจ้าหน้าที่เผย พบมีชาวต่างชาติเข้ามาซื้อ ก่อนจะยึดคืนผืนป่า 2 แปลง รวมกว่า 8 ไร่ นอกจากนี้ ยังยึดไม้สักท่อนและไม้ประดู่ ที่ถูกตัดในพื้นที่อีก 20 ท่อน นำตัวผู้ต้องหา ส่ง สภ.หางดง ดำเนินคดี 3 ข้อหาหนัก กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กก.4 บก.ปทส.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หางดง,เจ้าหน้าที่ ตชด.33 เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตำรวจภูธร ภาค 5 , เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ชม.13 และ เจ้าหน้าที่สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 3 เข้าตรวจตรวจสอบผืนป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ท่าช้าง และป่าแม่ขนิน ข้างห้วยช้างตาย บ้านท่าไม้ลุง ต.น้ำแพร่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เมื่อไปถึงพบชาวบ้านกำลังใช้ขวานตัดต้นไม้เพื่อแพ้วถางป่าบริเวณดังกล่าว จึงกระจายกำลังเพื่อตรวจค้นและจับกุม จากการตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชน ทราบชื่อ นายชาติ ซองคำ ชาวบ้าน ต.น้ำแพร่ อ.หางดง และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบผืนป่าบริเวณมีการล้อมรั้วลวดหนาม ลักษณะจับจองพื้นที่และมีการก่อสร้างตัวบ้าน เมื่อเจ้าหน้าที่วัดพื้นที่พบพื้นที่ป่าถูกบุกรุกรวม 4 ไร่ 0 งาน 01 ตารางวา จึงติดป้ายและตรวจยึดพื้นที่ดังกล่าวคืน ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่อีกชุด ได้ตรวจสอบผืนป่าบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ท่าช้างและป่าแม่ขนิน ใกล้กับจุดแรกพบมีการบุกรุกพื้นที่ป่าด้วยการแผ้วถางรวมทั้งหมด 3 ไร่ 3 งาน 14 ตารางวา พบไม้สักและไม้ประดู่ ที่ถูกตัดจากบริเวณดังกล่าวกว่า 20 ท่อน และมีการโค่นต้นไม้ให้ยืนต้น หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวนายชาติฯ มาสอบปากคำ ทราบว่ามีผู้นำชุมชนในพื้นที่ อ.หางดง 2 คนเป็นผู้ว่าจ้างให้แผ้วถางป่าบริเวณดังกล่าว หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ยึดคืนผืนป่าบริเวณดังกล่าวทั้ง 2 แปลงกว่า 8 ไร่ พร้อมยึดไม้ของกลาง และเครื่องมือแผ้วถางป่า ทั้งหมด และนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบวน สภ.หางดง ดำเนินคดีข้อหา ร่วมกันก่อสร้าง หรือกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าฯโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกัน ยึดถือ ครอบครองทำประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ , มีไม้สักอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเปิดเผยว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่เพื่อตรวจสอบผืนป่าบริเวณดังกล่าว พบมีกลุ่มคนจุดพลุส่งสัญญาณ ให้นายทุน ที่ว่าจ้างให้บุกรุกป่าหนีออกจากพื้นที่มาได้ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึงอย่างหวุดหวิด ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐ หลายหน่วยงานมีส่วนร่วม อำนวยความสะดวก และได้ผลประโยชน์ จากการบุกรุกป่าบริเวณดังกล่าว เพื่อนำไปขายต่อให้กับนายทุน จะเห็นได้ว่าบริเวณใกล้เคียง มีทั้งการปลูกบ้านจัดสรร และบ้านพักตากอากาศบริเวณดังกล่าว บางหลังมีชาวต่างชาติเข้ามาอาศัยอยู่ ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่สืบสวน เพื่อขยายผลในการติดตามจับกุมนายทุนกลุ่มดังกล่าว เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป