รัฐบาลสหราชอาณาจักรออกคำสั่งห้ามการค้าและการบริโภค “หูฉลาม” อย่างเป็นรูปธรรมครั้งแรก เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา พร้อมเรียกร้องให้มีการดำเนินการระหว่างประเทศมากขึ้น เพื่อร่วมกันปกป้อง “สัตว์นักล่าแห่งท้องทะเล” จากการสูญพันธุ์

สหราชอาณาจักรยังใช้โอกาสนี้เรียกร้องให้มีการดำเนินการในระดับสากลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการถอดครีบฉลามในทะเล และการทิ้งร่างของฉลามที่ใกล้สิ้นลมหายใจกลับลงไปในน้ำ คำสั่งห้ามนี้ ยังรวมถึงการแบนครีบฉลามที่ถูกตัดแยกออกจากตัวฉลาม และซุปหูฉลาม

ลอร์ด แซ็ก โกลด์สมิธ (Lord Goldsmith) รัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อมของสหราชอาณาจักรกล่าวถึงการประกาศบังคับใช้กฎหมายครั้งนี้ว่า “การกระทำของรัฐบาลสหราชอาณาจักร ไม่เพียงแต่จะช่วยลดภัยคุกคาม และเพิ่มจำนวนประชากรฉลามเท่านั้น แต่ยังเป็นประกาศจุดยืนของเราว่า เราไม่สนับสนุนอุตสาหกรรมที่นำไปสู่การสูญพันธุ์ของสัตว์ทุกชนิด”

ในแต่ละปี มีฉลามประมาณ 73 – 100 ล้านตัวถูกฆ่า ไม่เพียงแต่เพื่อนำครีบของพวกมันมาทำหูฉลาม แต่ผู้ล่ายังใช้ประโยชน์จากอวัยวะส่วนอื่นของพวกมัน อาทิ เนื้อ เหงือก และน้ำมันตับ เพื่อตอบสนองความต้องการบริโภคในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงทวีปยุโรป

Credit Photo https://www.straitstimes.com/singapore

เนื่องจาก “การล่าหูฉลาม” ทำให้ฉลามหลายสายพันธ์ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์อย่างรวดเร็ว โดยฉลามจำนวน 143 สายพันธุ์จากมากกว่า 500 สายพันธุ์ทั่วโลก ถูกบรรจุไว้ในบัญชีสายพันธุ์ที่ถูกคุกคาม และอยู่ในสถานะมีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์ (Vulnerable) ไปจนถึงสถานะเสี่ยงขั้นวิกฤตต่อการสูญพันธุ์ (Critically endangered)

เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล หรือ WWF เปิดเผยข้อมูลจากรายงาน The Shark and Ray Meat Network: a deep dive into a global affairs ซึ่งได้ทำการวิเคราะห์และตรวจสอบขบวนการส่งออก-นำเข้าเนื้อฉลามและกระเบนทั่วโลก ระหว่างปี พ.ศ.2555 – 2562 พบเส้นทางการค้าเนื้อฉลามและกระเบนระหว่างทวีปรวมแล้วมีมูลค่าสูงถึง 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยหลักฐานทั้งหมดชี้ว่า ‘การประมงทำลายล้าง’ เป็นภัยคุกคามเลวร้ายที่สุดที่กำลังจะทำให้ 36% ของสายพันธุ์ฉลาม รวมถึงกระเบนกว่า 1,200 ชนิดที่มนุษย์ค้นพบมาตั้งแต่อดีต กำลังจะสูญพันธุ์จากท้องทะเลในไม่ช้า

การประกาศบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนปฏิบัติการเพื่อสวัสดิภาพสัตว์ระดับชาติ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการอนุรักษ์สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ของประเทศมหาอำนาจ โดยก่อนหน้านี้ ในปี พ.ศ.2562 หนึ่งในประเทศที่นำเข้าครีบฉลามมากที่สุดในโลก นอกเหนือจากทวีปเอเชีย อย่างประเทศแคนาดา ได้ออกกฎหมายห้ามนำเข้าและส่งออกครีบฉลามที่ไม่ได้ติดมากับลำตัวฉลาม และยังเป็นเป็นชาติแรกในกลุ่ม G-20 ที่ออกกฎหมายแบนหูฉลาม

♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦

แหล่งข่าว