โควิดทำพิษ OceanAsia พบขยะหน้ากากในเกาะห่างไกล เกรงสร้างผลกระทบระยะยาว วอนประชาชนช่วยกันลดขยะ ทิ้งให้ถูกที่ ไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม

OceanAsia ทีมที่ทำการศึกษาขยะทะเล ซาก และไมโครพลาสติก ซึ่งทำงานวิจัยในหมู่เกาะโซโกะ เน้นการศึกษาขยะ แหล่งที่มาและอื่นๆ ซึ่งหมู่เกาะโซโกะ อยู่ในบริเวณของฮ่องกง เป็นเกาะห่างไกล และไม่มีผู้คนอยู่ ซึ่งหมายความว่าขยะเหล่านี้พัดพาลงทะเลมาจากเกาะหลัก

ทาง OceanaAsia เผยว่าในฮ่องกงสามารถเห็นหน้ากากถูกทิ้งตามธรรมชาติ และการเดินของมันในการลงทะเล พัดขึ้นสู่หาด และเกาะ ก็เกิดขึ้นเร็วมาก และนี่ทำให้เห็นว่าระบบการจัดการปัญหาขยะนั่นมีปัญหาในฮ่องกงและ จีน

และเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาทางทีมได้พบมลพิษทะเลใหม่ที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวนั่นก็คือ “ขยะหน้ากาก” ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไหร่ สถานการณ์ขยะหน้ากาก ก็ยิ่งแย่ลงไปเรื่อยๆ ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนทาง Ocean Asia ได้เผยภาพการไปสำรวจหาดบนเกาะเดิมอีกครั้ง พวกเขาพบขยะหน้ากากที่เพิ่มมากขึ้นซึ่งสร้างความกังวลอย่างมาก เพราะภายในหนึ่งชั่วโมงพวกเขาสามารถรวบรวมหน้ากากได้เป็นจำนวนมากในบริเวณ 100 เมตร ของชายหาดในเกาะ

โดยหน้ากากอนามัยมักจะมีพลาสติกอย่างโพลีโพรพิลีน (Polypropylene) ใช้เวลาในการย่อยสลายที่ยาวนานถึง 450 ปี หน้ากากอนามัยเหล่านี้ไม่ต่างจากระเบิดเวลาทางสิ่งแวดล้อมที่สร้างผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธรรมชาติและโลก

และในขณะนี้มลพิษขยะหน้ากาก และ PPE อื่นๆกำลังเป็นปัญหาทั่วโลก โดยมีการพบขยะหน้ากากในทะเลหลายประเทศทั่วโลก อาทิในฝรั่งเศส อังกฤษ และฮ่องกง ซึ่งต้องเร่งแก้ไข เพราะมันกำลังส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำอย่างมาก

จึงมีการรณรงค์ให้ให้ทุกคนช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม อย่างการลดการสร้างขยะหน้ากากโดยการใช้หน้ากากผ้า ซักใช้ซ้ำได้ รวมไปถึงแยกขยะหน้ากากอนามัยแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งก่อนทิ้งให้ “ลงถัง” เพื่อลดอันตรายจากเชื้อต่อเจ้าหน้าที่ และเพื่อการจัดการที่ถูกวิธีปลอดภัย

วิธีการทิ้งหน้ากากอนามัย

พับ มัด หน้ากาก ให้ส่วนที่สัมผัสกับใบหน้า สารคัดหลั่ง ฝอยละอองน้ำลายอยู่ด้านใน เพื่อป้องกันการแพร่กระจาย (ตัดหูออก) นำใส่ถุงใสที่สามารถมองเห็นได้ ถ้าเป็นถุงทึบให้เขียนบนถุงให้ชัดเจน มัดมิดชิดก่อนทิ้ง และล้างมือทุกครั้งหลังทิ้งหน้ากากอนามัย

แต่วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือการทิ้งในถังขยะติดเชื้อหรือติดต่อกับสถานพยาบาลใกล้บ้านเพื่อส่งหน้ากากไปกำจัด หรือมองหาจุดรับขยะติดเชื้อใกล้บ้าน ห้ามทิ้งลงในถังขยะอันตรายเด็ดขาด

แหล่งข่าว