พิษณุโลก – ระบบเติมน้ำใต้ดินรับน้ำหลาก-ได้น้ำใช้ฤดูแล้ง

28 กรกฎาคม 2563

พิษณุโลก 28 ก.ค.- อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ต้องเจอกับปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งเป็นประจำทุกปี กรมทรัพยากรน้ำบาดาลนำนวัตกรรมระบบเติมน้ำใต้ดินเข้ามาแก้ปัญหา ช่วยให้น้ำที่มีมากในฤดูฝนลงไปสู่ระบบน้ำใต้ดินได้รวดเร็ว และกลายเป็นแหล่งน้ำสำรองที่ดึงกลับขึ้นมาใช้ประโยชน์ได้ในฤดูแล้ง ติดตามจากรายงาน

ช่วงนี้เข้าสู่หน้าฝนเต็มตัวแล้ว ทำให้หลายพื้นที่ของไทยเริ่มมีปริมาณฝนตกสะสมมากขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงพื้นที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ที่มักประสบปัญหาน้ำท่วมเป็นประจำเมื่อเข้าสู่หน้าฝน ขณะที่หน้าแล้งกลับขาดแคลนน้ำ เนื่องจากไม่สามารถเก็บน้ำฝนไว้ใช้ได้มากพอ

อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลบอกว่า พื้นที่บางระกำมีชั้นดินผิวหน้าเป็นดินเหนียวหนากว่า 3-4 เมตร จึงทำให้น้ำฝนหรือน้ำหลากไม่สามารถซึมลงชั้นใต้ดินได้ในเวลาอันสั้น จึงต้องแก้ไขด้วยนวัตกรรมระบบเติมน้ำใต้ดินเข้ามาช่วยเพื่อเปิดทางให้น้ำฝนหรือน้ำหลากไหลลงสู่ระบบน้ำใต้ดิน

เมื่อผ่านชั้นดินเหนียวแล้ว จะต้องเจาะดินต่อลงไปอีกจนถึงชั้นทราย รวมความลึกประมาณ 8-10 เมตร จากนั้นจึงวางท่อวงต่อเป็นชั้นสูงตั้งแต่ชั้นทรายจนพ้นขอบดินบนสุด โดยที่ด้านบนจะมีระบบกรองด้วยวัสดุธรรมชาติกรวด 3 ขนาด และถ่านไม้ ตามลำดับ เมื่อน้ำหลากลงมาจะผ่านระบบกรอง ได้เป็นน้ำสะอาดลงสู่ระบบน้ำใต้ดิน เป็นการเติมน้ำใต้ดินให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม อีกทั้งเป็นพื้นที่เก็บน้ำที่ช่วยลดผลกระทบจากน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีการวิจัยพบว่าน้ำที่ลงไปสู่ระบบใต้ดินจะกระจายไปยังระบบน้ำใต้ดินรัศมีกว่า 1.5 กิโลเมตร

สวนเกษตรลุงทองปาน เป็นพื้นที่แห่งแรกๆ ที่นำระบบเติมน้ำใต้ดินมาใช้ ที่นี้จึงไม่มีปัญหาขาดน้ำใช้เพาะปลูกทั้ง 20 ไร่ เลยตลอดทั้งปี สามารถดึงน้ำใต้ดินมาใช้ได้ตามต้องการ ส่วนหน้าฝนก็มีพื้นที่รับน้ำลงไปเก็บไว้ในระบบใต้ดิน จากน้ำที่เคยท่วมขังเป็นเวลานานจะไหลลงสู่ระบบในเวลาไม่กี่ชั่วโมง เป็นแก้มลิงที่มองไม่เห็นให้สวนและแปลงเกษตรโดยรอบ

ล่าสุด รองนายกรัฐมนตรีส่งมอบบ่อเติมน้ำใต้ดิน 3 บ่อ ให้พื้นที่ อ.บางระกำ รวมแล้วกว่า 300 บ่อ โดยจะขยายโครงการเติมน้ำใต้ดินให้ครบ 530 บ่อ ภายในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งจะเป็นพื้นที่โมเดลตัวอย่างใช้นวัตกรรมช่วยบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน.-

สำนักข่าวไทย